หมวดที่ 1 ข้อความทั่วไป
ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2554 ”
ข้อ 2 ให้เริ่มใช้ข้อบังคับนี้ตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิกข้อบังคับสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2546 ทั้งฉบับแล้วให้ใช้ข้อบังคับสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2554 นี้แทน
ข้อ 4 คำว่าสมาคมต่อไปในข้อบังคับนี้ให้หมายความถึง สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ
ข้อ 5 ชื่อของสมาคม สมาคมนี้มีชื่อว่า “สมาคมศิษย์เก่าโรเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ”
อักษรย่อ (สศก.) เรียกชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Bangkok School For The Blind Alumni Association” อักษรย่อ BSAA.
ข้อ 6 เครื่องหมายของสมาคมและความหมายของเครื่องหมายสมาคม
6.1 เครื่องหมายของสมาคม เป็นรูปดาว มีอักษร GC อยู่ตรงกลาง อยู่ภายในวงกลม 2 ชั้น ภายในวงกลมด้านบนมีชื่อสมาคม เป็นภาษาไทยโค้งตามเส้นวงกลม ภายในวงกลมด้านล่างมีชื่อสมาคม เป็นภาษาอังกฤษ โค้งตามเส้นวงกลม
6.2 ความหมายของเครื่องหมายสมาคม
ดาว หมายถึง แสงสว่างในเวลากลางคืน สิ่งที่ทำลายอุปสรรคในความมืด
อักษร GC หมายถึง อักษรนำหน้าชื่อของมิสเจนีวีฟ คอลฟีลด์ สตรีตาบอดชาวอเมริกัน ผู้บุกเบิกการศึกษาของคนตาบอดในประเทศไทยเปรียบเสมือนผู้ให้แสงสว่างแก่คนตาบอดกรอบวงกลม 2 ชั้น หมายถึง ขอบเขตหรือกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง
ข้อ 7 ที่ตั้งสำนักงานของสมาคม สมาคมตั้งอยู่ ณ เลขที่ 27/9 หมู่ 5 ซอยพหลโยธิน 54 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220
หมวดที่ 2 วัตถุประสงค์
ข้อ 8 สมาคมนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ
8.1 จัดกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงมิสเจนีวีฟคอลฟีลด์ ผู้ให้กำเนิดการศึกษาแก่คนตาบอดในประเทศไทย
8.2 ให้ความร่วมมือ และสร้างความสามัคคีระหว่างศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน
8.3 ส่งเสริม และสนับสนุนการศึกษาแก่สมาชิก และศิษย์ปัจจุบัน
8.4 เผยแพร่ความรู้ ข่าวสาร และประสบการณ์ต่างๆ ให้แก่สมาชิก
8.5 ช่วยด้านสวัสดิการต่างๆ แก่สมาชิก
8.6 ส่งเสริมและสนับสนุนความก้าวหน้ารวมทั้งเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติคุณของโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพในทุกด้าน
8.7 ให้ความร่วมมือแก่องค์กรการกุศลต่าง ๆ ทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนที่ตั้งอยู่ภายในประเทศและต่างประเทศ
8.8 ไม่จัดตั้งโต๊ะบิลเลียดแต่อย่างใด
8.9 ส่งเสริมอาชีพในสาขาต่างๆแก่สมาชิกอย่างกว้างขวางรวมถึงอาชีพจำหน่ายสลากทุกประเภทที่สำนักงานสลาก หรือรัฐบาลพิมพ์ออกจำหน่าย
หมวดที่ 3 สมาชิก
ข้อ 9 ประเภทและคุณสมบัติของสมาชิกสมาคม
9.1 ประเภทของสมาชิก สมาชิกของสมาคมมี 3 ประเภท คือ
9.1.1 สมาชิกสามัญได้แก่ คนตาบอดทั้ง 2 ข้างที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ
9.1.2 สมาชิกวิสามัญได้แก่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ หรืออาสาสมัครที่ทำงานกับสมาคม ซึ่งคณะกรรมการบริหารสมาคม พิจารณารับเข้าเป็นสมาชิก
9.1.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ได้แก่ บุคคลผู้ทรงเกียรติหรือทรงคุณวุฒิหรือผู้มีอุปการคุณแก่สมาคมซึ่งคณะกรรมการบริหารสมาคมมีมติให้ออกหนังสือเชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมและบุคคลนั้นมีหนังสือตอบรับคำเชิญ
9.2 คุณสมบัติของสมาชิกสามัญสมาชิกสามัญจะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้
9.2.1 เคยผ่านการศึกษาจากโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพอย่างน้อยหนึ่งปี
9.2.2 มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์นับถึงวันสมัคร
9.2.3 มีความประพฤติดี และประกอบอาชีพสุจริต
9.2.4 ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง และไม่เป็นคนวิกลจริต
9.2.5 ไม่ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลายหรือไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถหรือต้องโทษจำคุกยกเว้นความผิดฐานประมาท หรือลหุโทษ
การต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดในกรณีดังกล่าวจะต้องเป็นในขณะที่สมัครเป็นสมาชิกหรือระหว่างที่เป็นสมาชิกของสมาคมเท่านั้น
ข้อ.10. การสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมยื่นใบสมัครตามแบบของสมาคมพร้อมค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคมตลอดจนเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครต่อนายทะเบียนหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคมโดยให้มีสมาชิกสามัญของสมาคมรับรองอย่างน้อย 1 คน แล้วนายทะเบียนนำเอกสารการสมัครเสนอต่อคณะกรรมการบริหารสมาคมเพื่อพิจารณาว่าจะรับหรือ ไม่รับเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมโดยเร็ว
ถ้าคณะกรรมการบริหารสมาคมพิจารณาอนุมัติให้รับผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ ก็ให้นายทะเบียนดำเนินการลงทะเบียนและออกบัตรประจำตัวสมาชิกซึ่งเป็นอันเริ่มต้นสมาชิกภาพแต่ถ้าคณะกรรมการบริหารสมาคมพิจารณาไม่รับผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมก็ให้เลขานุการทำหนังสือแจ้งให้ผู้สมัครทราบ พร้อมคืนค่าลงทะเบียน ค่าบำรุง รวมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครเป็นสมาชิกทั้งหมด
ข้อ 11 ค่าลงทะเบียน ค่าบำรุงสมาคม และการขาดส่งค่าบำรุงสมาคม
11.1 ค่าลงทะเบียนสมาชิกสามัญจะต้องชำระค่าลงทะเบียนในการสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมครั้งแรกคนละ 20 บาท
11.2 ค่าบำรุงสมาชิกสามัญ ต้องชำระค่าบำรุงสมาคม เป็นรายปี ปีละ 30 บาทหรือตลอดชีพ 300 บาท
ในกรณีที่ชำระค่าบำรุงเป็นรายปีต้องชำระภายในเดือนเมษายนของทุกปี
11.3 การขาดส่งค่าบำรุงสมาชิกสามัญของสมาคมคนใดขาดส่งค่าบำรุงในปีใดก็ให้หมดสิทธิต่างๆที่จะได้รับตามข้อบังคับและระเบียบของสมาคม
11.4 สมาชิกวิสามัญ และสมาชิกกิตติมศักดิ์ไม่ต้องชำระค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคม
ข้อ 12 เอกสารหลักฐานประกอบการสมัครเป็นสมาชิกสามัญ
12.1 ใบสมัครตามแบบของสมาคม
12.2 สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง จำนวน 2 ชุด
12.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง จำนวน 2 ชุด
12.4 สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง จำนวน 2 ชุด
12.5 สำเนาทางการศึกษาที่แสดงว่าได้ผ่านการศึกษาจากโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ อย่างน้อย 1 ปี พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง จำนวน 2 ชุด
12.6 รูปถ่ายปัจจุบันหน้าตรงไม่สวมหมวก ไม่ใส่แว่น ขนาด 1 นิ้ว พร้อมเขียนชื่อผู้สมัครไว้ด้านหลังรูป จำนวน 3 รูป
ข้อ 13 สมาชิกภาพของสมาชิกให้สิ้นสุดลงด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้
13.1 ตาย
13.2 ลาออก โดยยื่นหนังสือต่อนายทะเบียน หรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม
13.3 ประพฤติตนเป็นที่เสื่อมเสียชื่อเสียงของสมาคม หรือเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
13.4 ขาดคุณสมบัติตามที่ระบุไว้ในข้อ 9.2
ข้อ 14 สิทธิของสมาชิก
14.1 ในฐานะสมาชิกสามัญ
14.1.1 ลงสมัครรับเลือกตั้งได้รับเลือกตั้งหรือได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการบริหารของสมาคม
14.1.2 ออกเสียงได้คนละหนึ่งคะแนนทุกครั้งที่มีการลงคะแนน (ห้ามออกเสียงแทนกัน)
14.1.3 เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคม เมื่อเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมครบ 45 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง
14.1.4 ขอตรวจสอบการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริหารสมาคมได้โดยลงลายมือชื่อร่วมกันอย่างน้อย30 คน ซึ่งต้องยื่นคำขอเป็นลายลักษณ์อักษรต่อนายกสมาคม ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนการดำเนินการตรวจสอบ
14.1.5 ขอเปิดอภิปรายทั่วไปหรือเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะกรรมการบริหารสมาคมทั้งคณะหรือเป็นรายบุคคลได้ทุกครั้งที่มีการประชุมสมาชิกโดยยื่นคำขอเป็นลายลักษณ์อักษรต่อนายกสมาคมซึ่งต้องมีสมาชิกสามัญลงลายมือชื่อร่วมกันอย่างน้อยหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมดหรือหนึ่งร้อยคน
14.1.6 ขอเปิดประชุมวิสามัญได้โดยการลงลายมือชื่อร่วมกันอย่างน้อยหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมด หรือ 100 คนร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษรต่อนายกสมาคม
14.1.7 ได้รับสวัสดิการจากสมาคมอย่างเสมอภาคกันทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สมาคม กำหนดขึ้น
14.2 ในฐานะสมาชิกทุกประเภท
14.2.1 แสดงความคิดเห็นหรือตั้งกระทู้ถามในเรื่องเกี่ยวกับกิจการของสมาคมหรือสิทธิและหน้าที่ของสมาชิก โดยยื่นก่อนมีการประชุมอย่างน้อย3วันเว้นแต่เป็นกรณีฉุกเฉินหรือคณะกรรมการบริหารยินดีตอบแม้ยื่นในวันประชุม
14.2.2 ใช้สถานที่ของสมาคมได้ในเวลาที่เหมาะสมเพื่อกิจการที่ชอบด้วยวัตถุประสงค์และระเบียบการใช้อาคาร สถานที่
ข้อ 15 หน้าที่ของสมาชิกสามัญ
15.1 ปฏิบัติตามข้อบังคับระเบียบและประกาศของสมาคมที่กำหนดขึ้น
15.2 ให้ความร่วมมือและสนับสนุนกิจกรรมที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
15.3 เผยแพร่ชื่อเสียงของสมาคม ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
15.4 เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี
ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมสามัญประจำปีได้ต้องยื่นหนังสือลาประชุมล่วงหน้าต่อนายกสมาคมอย่างน้อย 15 วัน ก่อนการประชุม เว้นแต่มีเหตุจำเป็นจนไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ให้ยื่นหนังสือลาประชุมต่อนายกสมาคมภายใน 7 วัน หลังจากวันประชุม
หมวดที่ 4 การบริหารสมาคม
ข้อ 16 ให้มีคณะบุคคลคณะหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมโดยมาจากการเลือกตั้ง ทำหน้าที่เป็น
คณะกรรมการบริหารกิจการของสมาคม มีจำนวนอย่างน้อย 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน โดยมีตำแหน่งต่างๆ ดังต่อไปนี้ นายกสมาคม อุปนายก เลขานุการ เหรัญญิก นายทะเบียน ประชาสัมพันธ์ ปฏิคม และตำแหน่งต่างๆ ตามความจำเป็นอีกไม่เกิน 8 ตำแหน่ง
ข้อ 17 คณะกรรมการบริหารสมาคม ตามข้อ 16 ได้มาจากการเลือกตั้งโดยเสียงข้างมากของสมาชิกที่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งหรือที่ประชุมใหญ่ของสมาคม
ข้อ 18 หน้าที่ของกรรมการบริหารสมาคมแต่ละตำแหน่ง
18.1 นายกสมาคม มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
18.1.1 เป็นประธานในที่ประชุมใหญ่ของสมาคมที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมและควบคุมการประชุมดังกล่าว ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
18.1.2 ควบคุมดูแลการดำเนินงานของสมาคมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นไปตามวัตถุประสงค์
18.1.3 ลงลายมือชื่อในเอกสารต่างๆในนามของสมาคมตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสมาคม
18.1.4 ดำเนินการอื่นๆตามที่คณะกรรมการบริหารสมาคมมีมติให้ดำเนินการภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆ ของสมาคม
18.2 อุปนายกมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
18.2.1 เป็นผู้ช่วยนายกสมาคม ในการบริหารกิจการของสมาคม
18.2.2 ปฏิบัติหน้าที่ตามที่นายกสมาคมมอบหมาย แต่ต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับและระเบียบต่างๆ ของสมาคม
18.2.3 ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือเมื่อตำแหน่งนายกสมาคมว่างลง การปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสมาคมให้อุปนายกสมาคมตามลำดับเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน
18.2.4 ดำเนินการอื่นๆตามที่คณะกรรมการบริหารมีมติให้ดำเนินการภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆของสมาคม
18.2.5 ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกสมาคมภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆของสมาคม
18.3 เลขานุการ มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
18.3.1 บริหารงานธุรการและงานบุคคลของสมาคมและปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคมตลอดจนเป็นเลขานุการสมาคมในที่ประชุมใหญ่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของสมาคมและจัดทำรายงานการประชุมดังกล่าวทุกครั้ง
18.3.2 แจ้งนัดประชุมไปยังสมาชิกหรือกรรมการบริหารสมาคมแล้วแต่กรณี
18.3.3 ดำเนินการอื่นๆตามที่คณะกรรมการบริหารมีมติให้ดำเนินการภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆของสมาคม
18.3.4 ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกสมาคมภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆของสมาคม
18.4 เหรัญญิก มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
18.4.1 ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับรายงานการเงินทั้งหมดของสมาคม
18.4.2 จัดทำบัญชีรายรับ รายจ่าย บัญชีทรัพย์สิน และงบดุลของสมาคม
18.4.3 เก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเงินของสมาคม ไว้เพื่อการตรวจสอบ
18.4.4 ควบคุม ดูแล ตรวจสอบ การรับ จ่าย การเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของสมาคมฯ ให้เป็นไปโดยถูกต้องเรียบร้อย
18.4.5 ดำเนินการอื่นๆตามที่คณะกรรมการบริหารมีมติให้ดำเนินการภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆ ของสมาคม
18.4.6 ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกสมาคม ภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆ ของสมาคม
18.5 นายทะเบียน มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
18.5.1 จัดทำทะเบียนสมาชิกสมาคมให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
18.5.2 ประสานงานกับเหรัญญิกสมาคมฯ ในการเรียกเก็บเงินค่าลงทะเบียนเงินค่าบำรุงสมาคม จากสมาชิก
18.5.3 ดำเนินการอื่นๆตามที่คณะกรรมการบริหารมีมติให้ดำเนินการภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆ ของสมาคม
18.5.4 ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกสมาคม ภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆ ของสมาคม
18.6 ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
18.6.1 เผยแพร่กิจกรรม ชื่อเสียง เกียรติคุณของสมาคม ให้สมาชิกและบุคคลทั่วไปให้เป็นที่ รู้จักอย่างแพร่หลาย
18.6.2 ดำเนินการอื่นๆตามที่คณะกรรมการบริหารมีมติให้ดำเนินการภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆ ของสมาคม
18.6.3 ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกสมาคม ภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆ ของสมาคม
18.7 ปฏิคม มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
18.7.1 ให้การต้อนรับสมาชิกที่มาประชุม และผู้มาติดต่อสมาคม
18.7.2 จัดเตรียมสถานที่ประชุมต่างๆ ของสมาคม
18.7.3 ดูแลความเรียบร้อยของอาคารสำนักงานสมาคม
18.7.4 ดำเนินการอื่นๆตามที่คณะกรรมการบริหารมีมติให้ดำเนินการภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆ ของสมาคม
18.7.5 ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกสมาคม ภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆ ของสมาคม
18.8 กรรมการบริหารถ้ามิได้ระบุตำแหน่งก็ให้ถือว่าเป็นกรรมการกลางมีหน้าที่ดำเนินการอื่นๆตามที่คณะกรรมการบริหารสมาคมมีมติให้ดำเนินการภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆของสมาคมและปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกสมาคม ภายใต้ข้อบังคับและระเบียบต่างๆ ของสมาคม
ข้อ 19 คุณสมบัติของคณะกรรมการบริหารสมาคม
19.1 ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกสมาคมต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
19.1.1 ต้องเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมมาแล้วไม่น้อยกว่า/2ปี
19.1.2 อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
19.1.3 สำเร็จการศึกษาไม่น้อยกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า
19.1.4 ต้องไม่มีหนี้สินค้างชำระอยู่กับสมาคม
19.1.5 สามารถใช้อักษรเบรลล์เพื่อการสื่อสารได้
19.2 ผู้ที่จะเป็นกรรมการต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
19.1.1 ต้องเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมไม่น้อยกว่า 1 ปี ขึ้นไป
19.1.2 มีอายุตั้งแต่ 20 ปี ขึ้นไป
19.2.3 สำเร็จการศึกษาไม่น้อยกว่ามัธยมศึกษาตอนต้นหรือเทียบเท่า
19.2.4 ต้องไม่มีหนี้สินค้างชำระอยู่กับสมาคม
19.2.5 สามารถใช้อักษรเบรลล์เพื่อการสื่อสารได้
ข้อ 20 คณะกรรมการของสมาคมอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี สำหรับตำแหน่งนายกสมาคม มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งติดต่อกันไม่เกิน 2 สมัย ซึ่งในการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการบริหารนั้นให้นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการเป็นต้นไป
เมื่อคณะกรรมการอยู่ในตำแหน่งครบกำหนดตามวาระหรือพ้นวาระตามข้อ 21 ให้จัดการเลือกตั้งภายใน 60 วันนับแต่วันที่พ้นวาระ หรือวันที่คณะกรรมการพ้นจากตำแหน่ง
เมื่อที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่แล้ว จะต้องทำการยื่นขออนุญาตจดทะเบียนคณะกรรมการต่อทางราชการภายใน 30 วัน นับจากวันเลือกตั้ง
ในระหว่างที่คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการก็ให้คณะกรรมการชุดเก่ารักษาการไปพลางก่อนจนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ
เมื่อคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้ทำการส่งและรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเก่าและคณะกรรมการชุดใหม่ให้เป็นที่เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ
ข้อ 21 กรรมการบริหารสมาคมอาจพ้นจากตำแหน่งซึ่งมิใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุต่อไปนี้ คือ
21.1 ตาย
21.2 ลาออก โดยยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการบริหารมีมติให้ออก
21.3 ขาดจากสมาชิกภาพ
21.4 โดยมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร
21.5 ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออกจากตำแหน่ง
ข้อ 22 ตำแหน่งกรรมการสมาคม ถ้าต้องว่างลงก่อนครบกำหนดตามวาระก็ให้คณะกรรมการแต่งตั้งสมาชิกสามัญคนใดคนหนึ่งที่เห็นสมควรเข้าดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลง แต่ผู้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวารของผู้ที่ตนแทนเท่านั้น
ข้อ 23 ในกรณีที่นายกสมคม พ้นจากตำแหน่งตามข้อ 20 ให้ถือว่าคณะกรรมการบริหารชุดนั้นพ้นสภาพและให้อุปนายกสมาคม เป็นผู้รักษาการแทนพร้อมจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อมคณะกรรมการบริหารทั้งคณะภายใน 60 วันนับจากวันที่นายกสมาคมพ้นจากตำแหน่งและคณะกรรมการบริหารที่ได้รับการเลือกตั้งในครั้งนั้นจะดำรงตำแหน่งได้เท่ากับระยะเวลาของคณะกรรมการบริหารชุดที่ตนแทนเท่านั้น เว้นแต่วาระการบริหารงานเหลือไม่ถึง 180 วัน ก็ไม่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อม
ข้อ 24. อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารสมาคม
24.1 มีอำนาจออกระเบียบ ประกาศ คำสั่งเพื่อการบริหารกิจการของสมาคม แต่ต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้
24.2 มีอำนาจแต่งตั้ง และ ถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม เมื่อกระทำความผิดต่อหน้าที่ หรือ ไม่สนองต่อนโยบายของคณะกรรมการบริหารสมาคม
24.3 มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการ ที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการได้ แต่กรรมการ ที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการจะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง
24.4 มีอำนาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี และประชุมใหญ่วิสามัญ
24.5 มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการในตำแหน่งอื่น ๆ ที่ยังมิได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้
24.6 มีอำนาจบริหารกิจการของสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนมีอำนาจอื่นๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้
24.7 มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหมด รวมทั้งการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม
24.8 มีหน้าที่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญตามที่สมาชิกสามัญจำนวน 1 ใน 5 ของสมาชิกสามัญทั้งหมด หรือ สมาชิกสามัญ จำนวน 100 คน ได้เข้าชื่อร้องขอให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญขึ้น ซึ่งการนี้จะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญขึ้นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ
24.9 มีหน้าที่จัดทำเอกสารหลักฐานต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สินและการดำเนินกิจกรรม
ต่าง ๆ ของสมาคมให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและสามารถจัดให้สมาชิกตรวจสอบได้เมื่อสมาชิกร้องขอ
24.10 มีหน้าที่จัดทำบันทึกการประชุมต่างๆ ของสมาคม เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและจัดส่งให้สมาชิกได้รับทราบ
24.11 มีหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้
ข้อ 25. คณะกรรมการบริหารสมาคมจะต้องประชุมกันอย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการบริหารกิจการของสมาคม
การประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคม จะต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด จึงจะถือว่าเป็นองค์ประชุม แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาประชุมถ้ากรรมการมาไม่ครบองค์ประชุมให้เรียกประชุมใหม่ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่มีการนัดประชุมครั้งแรก ซึ่งในครั้งนี้ถ้ามีกรรมการมาประชุม 1 ใน 3 ก็ให้ถือว่าเป็นองค์ประชุมได้
มติของที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคม ถ้าข้อบังคับหรือระเบียบของสมาคมมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ โดยประธานในที่ประชุมต้องวางตัวเป็นกลาง แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
ข้อ 26. ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้คณะกรรมการที่เข้าประชุมในคราวนั้นเลือกตั้งกันเอง เพื่อให้กรรมการคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น
หมวดที่ 5 การประชุมใหญ่
ข้อ 27 การประชุมใหญ่ของสมาคมฯ มี 2 ประเภทคือ
27.1 ประชุมใหญ่สามัญ
27.2 ประชุมใหญ่วิสามัญ
ข้อ 28 คณะกรรมการจะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญปีละ 1 ครั้งภายในเดือนพฤษภาคมของทุกปี
ข้อ 29 การประชุมใหญ่วิสามัญ อาจจะมีขึ้นได้โดยเหตุที่คณะกรรมการเห็นควรจัดให้มีขึ้น หรือเกิดขึ้นด้วยการเข้าชื่อร่วมกันของสมาชิกสามัญไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของสมาชิกสามัญทั้งหมด หรือสมาชิกสามัญ จำนวน 100 คน ร้องขอต่อคณะกรรมการให้จัดให้มีขึ้น
ข้อ 30 การแจ้งกำหนดการประชุมใหญ่ ให้เลขานุการทำหนังสือแจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้สมาชิกทราบ ถึง วัน เวลา สถานที่และระเบียบวาระการประชุม พร้อมทั้งเอกสารประกอบการประชุมให้ชัดเจน โดยจะต้องแจ้งให้สมาชิกได้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน ก่อนถึงวันประชุมใหญ่
ข้อ 31 การประชุมใหญ่สามัญประจำปี จะต้องมีวาระการประชุมอย่างน้อยดังต่อไปนี้
31.1 เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
31.2 รับรองรายงานการประชุม
31.3 แถลงกิจการที่ผ่านมาในรอบปี
31.4 แถลงบัญชีรายรับ รายจ่าย บัญชีทรัพย์สิน และงบดุลประจำปีให้สมาชิกรับทราบ
31.5 เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ เมื่อครบกำหนดตามวาระ
31.6 เลือกตั้งผู้สอบบัญชี
31.7 เรื่องอื่นๆ ( ถ้ามี )
ข้อ 32 การประชุมใหญ่สามัญประจำปี หรือการประชุมใหญ่วิสามัญ จะต้องมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมดจึงจะถือว่าครบองค์ประชุม
เมื่อถึงกำหนดเวลาประชุมแล้ว แต่ยังมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุม ให้คณะกรรมการของสมาคมเรียกประชุมใหม่อีกครั้ง โดยจัดให้มีการประชุมขึ้นภายใน 14 วัน นับแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรก สำหรับการประชุมในครั้งหลังนี้มีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนเท่าใดก็ให้ถือว่าครบองค์ประชุม
เว้นแต่เป็นการประชุมใหญ่วิสามัญซึ่งเกิดจากการเข้าชื่อร่วมกันของสมาชิก ถ้ามีสมาชิกสามัญมาร่วมประชุมไม่ถึงจำนวนกึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด ก็ไม่ต้องจัดการประชุมให้ถือว่าการประชุมเป็นอันยกเลิก
ข้อ 33. มติของที่ประชุมใหญ่ ถ้าข้อบังคับหรือระเบียบของสมาคมมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ โดยประธานในที่ประชุมต้องวางตัวเป็นกลาง แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
ข้อ 34. ในการประชุมใหญ่ของสมาคมถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่มาร่วมประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้ที่ประชุมใหญ่ทำการเลือกกรรมการบริหารสมาคมที่มาร่วมประชุมคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น
หมวดที่ 6 การเงินและทรัพย์สิน
ข้อ 35. การเงินและทรัพย์สินทั้งหมดให้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหารสมาคม เงินสดของสมาคมถ้ามีให้นำฝากไว้ที่ธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินในนามสมาคม โดยให้นายกสมาคมลงลายมือชื่อร่วมกับเหรัญญิก และ เลขานุการ การเบิกถอนให้กระทำได้โดยลงลายมือชื่อ 2 ใน 3 ของผู้เปิดบัญชีพร้อมตราประทับสมาคม
ข้อ 36. การลงนามในตั๋วแลกเงิน เช็คหรือเอกสารทางการเงินอื่นๆ ของสมาคม จะต้องมีลายมือชื่อของนายกสมาคม หรือผู้กระทำการแทน ลงนามร่วมกับเหรัญญิก หรือ เลขานุการ พร้อมกับประทับตราของสมาคมจึงจะถือว่าใช้ได้
ข้อ 37. ให้นายกสมาคมมีอำนาจสั่งจ่ายเงินโดยได้รับความเห็นชอบจากเลขานุการและเหรัญญิก เพื่อใช้ในกิจการของสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน 30,000 บาท (สามหมื่นบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่านั้นจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ และ คณะกรรมการจะอนุมัติให้จ่ายเงินได้ครั้งละไม่เกิน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) ถ้าจำเป็นต้องจ่ายเกินกว่านี้ ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ของสมาคม เว้นแต่เป็นการจ่ายเงินที่กำหนดไว้ในโครงการของสมาคม ก็ให้เป็นไปตามรายจ่ายที่กำหนดไว้ตามโครงการนั้น ๆ
ข้อ 38. ให้เหรัญญิก มีอำนาจในการเก็บรักษาเงินสดของสมาคมได้ไม่เกิน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)ถ้าเกิน
กว่าจำนวนนี้จะต้องนำฝากธนาคารในบัญชีของสมาคมทันทีที่โอกาสอำนวยให้แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 15 วันทำการ
ข้อ 39. เหรัญญิก จะต้องทำบัญชีรายรับ รายจ่าย บัญชีทรัพย์สิน เพื่อรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมและที่ประชุมใหญ่พร้อมทั้งเสนอให้ผู้สอบบัญชีของสมาคมพิจารณาจัดทำงบดุลประจำปี ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
การรับหรือการจ่ายทุกครั้ง จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของนายกสมาคมหรือผู้ทำการแทนร่วมกับเหรัญญิกหรือผู้ทำการแทน พร้อมกับประทับตราของสมาคมทุกครั้ง
ข้อ 40. ผู้สอบบัญชี จะต้องมิใช่กรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม และจะต้องเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
ข้อ 41. ผู้สอบบัญชี มีอำนาจเรียกเอกสารที่เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินจากคณะกรรมการและสามารถจะเชิญกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม เพื่อสอบถามเกี่ยวกับบัญชีและทรัพย์สินของสมาคมได้
ข้อ 42. คณะกรรมการบริหารสมาคมจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชีเมื่อได้รับการร้องขอ
การเบิกจ่ายเงินในธนาคาร หรือการทำนิติกรรมอื่นใด นายก เลขานุการ เหรัญญิกลงลายมือชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 พร้อมตราประทับ จึงจะสมบูรณ์
หมวดที่ 7 การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับและการเลิกสมาคม
ข้อ 43. ข้อบังคับของสมาคมจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยมติของที่ประชุมใหญ่เท่านั้น และองค์ประชุมจะต้องมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด มติของที่ประชุมใหญ่ในการให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับ จะต้องมีคะแนนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด
ข้อ 44. การเลิกสมาคมจะเลิกได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ยกเว้นเป็นการเลิกเพราะเหตุของกฎหมาย มติของที่ประชุมใหญ่ที่ให้เลิกสมาคมจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด และองค์ประชุมใหญ่จะต้องไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด
ข้อ 45. เมื่อสมาคมต้องเลิกไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม ทรัพย์สินของสมาคมที่เหลืออยู่ หลังจากที่ได้ชำระบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ตกเป็นของมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อใช้ในกิจการที่เป็นประโยชน์ของโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ
บทเฉพาะกาล
ข้อ 46. ห้ามมิให้นำ ข้อ 20 วรรคหนึ่ง แห่งข้อบังคับฉบับนี้มาบังคับใช้กับคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดปัจจุบันจนกว่าจะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดต่อไป
ข้อ 47. ให้นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ เป็นผู้รักษาการตามข้อบังคับฉบับนี้
ลงชื่อ.......................................
( นายวิรัช สุขเจริญ )
ผู้จัดทำข้อบังคับ