ระเบียบสวัสดิการ

ระเบียบสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ
ว่าด้วยกองทุนสวัสดิการเพื่อสมาชิก
สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ พ.ศ. ๒๕๕๒

คำปรารภ

ตามที่นางมุกดา ปัญญ์เอกวงศ์  ได้บริจาคเงินจำนวน ๕๕๐,๐๐๐ บาท ให้แก่สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ เนื่องในโอกาสที่มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ มีอายุครบ ๕๕ ปี จัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อจัดสรรสวัสดิการให้แก่สมาชิกเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ แล้วนั้น ปรากฏว่า  สมาคม ได้ออกระเบียบสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ว่าด้วยกองทุนสวัสดิการสมาชิก พ.ศ. ๒๕๓๗ ระเบียบสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ว่าด้วยกองทุนสวัสดิการสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๐ และระเบียบสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ว่าด้วยกองทุนสวัสดิการสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นหลักในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่บรรดาสมาชิก
บัดนี้กาลเวลาได้เปลี่ยนไป เพื่อให้ระเบียบที่ใช้เป็นหลักปฏิบัติเหมาะสมกับกาลสมัย สมาคม จึงได้ออกระเบียบฉบับนี้เพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติสืบไป
ข้อ ๑ ระเบียบฉบับนี้เรียกว่า ระเบียบสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ว่าด้วยกองทุนสวัสดิการเพื่อสมาชิกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ  พ.ศ. ๒๕๕๒
ข้อ ๒ ระเบียบฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่มีการประกาศใช้ระเบียบนี้
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ว่าด้วยกองทุนสวัสดิการเพื่อสมาชิกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ พ.ศ. ๒๕๔๕
บรรดา กฎ ระเบียบ ข้อกำหนด หรือหลักเกณฑ์ใด ๆ ที่ขัดหรือแย้งกับระเบียบฉบับนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
“สมาคม” หมายถึง สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ
“คณะกรรมการ” หมายถึง คณะกรรมการบริหารสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ
“สมาชิก” หมายถึง สมาชิกสามัญของสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ
“กองทุน” หมายถึง กองทุนสวัสดิการเพื่อสมาชิกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ
ข้อ ๕ องค์ประกอบของกองทุน ได้แก่
๕.๑  เงินบริจาคของนางมุกดา ปัญญ์เอกวงศ์ เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๗  จำนวน ๕๕๐,๐๐๐ บาท
๕.๒ ดอกเบี้ยเงินฝากจากธนาคารของบัญชีสมาคม (กองทุนสวัสดิการสมาชิก)
๕.๓ เงินบริจาคสมทบกองทุนสวัสดิการสมาชิก
๕.๔ เงินโอนบางส่วนจากค่าธรรมเนียมการเป็นตัวแทนในการจัดสรรสลากให้แก่สมาชิก
๕.๕ รายรับจากการจัดกิจกรรมหารายได้ของสมาคม
ข้อ ๖ สวัสดิการของสมาคม ประกอบด้วย
๖.๑  สวัสดิการเพื่อทุนการศึกษา
๖.๒  สวัสดิการเพื่อช่วยเหลือการคลอดบุตร
๖.๓  สวัสดิการเพื่อช่วยเหลือเป็นค่ารักษาพยาบาล
๖.๔  สวัสดิการเพื่อช่วยเหลือการปลงศพ
๖.๕ สวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้
ข้อ ๗ สมาชิกผู้มีสิทธิ์ขอรับสวัสดิการตามระเบียบนี้จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
๗.๑  เป็นสมาชิกของสมาคม ไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน
๗.๒  ไม่ค้างชำระค่าบำรุงกับทางสมาคม
๗.๓  มีความประพฤติดี
๗.๔  ให้ความร่วมมือกับสมาคม อย่างสม่ำเสมอ
๗.๕ ไม่เคยก่อความเสียหายต่อทรัพย์สินและชื่อเสียงของสมาคม
ข้อ ๘ สมาชิกผู้ขอรับทุนสวัสดิการเพื่อการศึกษาจะต้องเป็นผู้อยู่ในระหว่างการศึกษาไม่ว่าสถาบันการศึกษาของรัฐ หรือเอกชน
ทุนการศึกษาของ สมาคม มีมูลค่าทุนละ ๑,๕๐๐ บาท
สมาชิกผู้ขอรับทุนการศึกษาจะต้องยื่นคำขอรับทุนตามระยะเวลา และแบบที่ทางสมาคม กำหนดพร้อมด้วยหลักฐานต่างๆ ดังต่อไปนี้
๑.สำเนาบัตรสมาชิกของผู้ยื่นขอรับทุน
๒.สำเนาบัตรประชาชนของผู้ยื่นขอรับทุน
๓.สำเนาบัตรประจำตัวนักเรียน หรือนักศึกษาของผู้ยื่นขอรับทุน
๔.สำเนาแสดงผลการเรียนภาคเรียนล่าสุดของผู้ยื่นขอรับทุน
ข้อ ๙. ให้นำบทบัญญัติในข้อ ๘ มาใช้บังคับกับกรณีที่สมาชิกขอทุนการศึกษาให้บุตร
สมาชิกผู้ใดที่ได้ใช้สิทธิ์ตามข้อ ๘ แล้ว จะใช้สิทธิ์ซ้ำในข้อ ๙ มิได้
สมาชิกหนึ่งคนสามารถขอรับทุนการศึกษาให้แก่บุตรได้หนึ่งคนเท่านั้น
ข้อ ๑๐ ในกรณีที่สมาชิก หรือภรรยาของสมาชิกคลอดบุตร สมาชิกผู้นั้นมีสิทธิ์ขอเบิกเงินเป็นสวัสดิการช่วยเหลือการคลอดบุตรได้คนละไม่เกิน ๑,๕๐๐ บาท จำนวนบุตร ๒ คน
สมาชิกผู้ขอเบิกเงินเป็นสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือการคลอดบุตรจะต้องยื่นสูติบัตร หรือหลักฐานอื่นๆ อันแสดงว่าเป็นบุตรของสมาชิกผู้รับสวัสดิการ
ในกรณีที่สามี และภรรยา เป็นสมาชิกของสมาคม ทั้งคู่ให้เบิกเงินเป็นสวัสดิการช่วยเหลือการคลอดบุตรได้ในนามของสมาชิกคนใดคนหนึ่งเท่านั้น
ข้อ ๑๑ สมาชิกที่เจ็บป่วยมีสิทธิ์ขอเบิกเงินทุนสวัสดิการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ ๓,๐๐๐ บาท โดยสมาชิกผู้ขอเบิกเงินเป็นสวัสดิการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลนั้น จะต้องยื่นใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลต่อสมาคมภายในรอบบัญชีของสมาคม
ผู้ยื่นขอรับสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลจะได้รับการจัดสรรสวัสดิการจากสมาคมภายใน ๔๕ วัน นับจากวันที่ยื่นเอกสารต่อสมาคม
ข้อ ๑๒ ในกรณีที่สมาชิก บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของสมาชิกเสียชีวิต สมาชิกหรือทายาท มีสิทธิ์เบิกเงินเป็นสวัสดิการค่าปลงศพได้ โดยสมาคม จะพิจารณาช่วยเหลือดังนี้
๑๒.๑ ในกรณีที่สมาชิกเสียชีวิต สมาคม จะมอบเงินเป็นค่าปลงศพรายละ ๓,๐๐๐ บาท
๑๒.๒ ในกรณีที่บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของสมาชิกเสียชีวิต สมาคม จะมอบเงิน ๑,๕๐๐ บาท ให้แก่สมาชิก
๑๒.๓ เมื่อศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ซึ่งมิได้เป็นสมาชิกของสมาคม เสียชีวิต ให้สมาคม  แสดงสายสัมพันธ์ระหว่างศิษย์สถาบันเดียวกันโดยมอบเงิน หรือหรีดเคารพศพรายละ ๕๐๐ บาท
ข้อ ๑๓ สมาชิกที่มีอายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไปและไม่มีรายได้ประจำมีสิทธิ์ขอรับสวัสดิการเบี้ยผู้สูงอายุได้ปีละ ๑,๕๐๐ บาท
สมาชิกผู้สูงอายุที่ประสงค์จะได้รับสวัสดิการเบี้ยผู้สูงอายุจะต้องยื่นเอกสารดังต่อไปนี้
๑.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรผู้สูงอายุ
๒.สำเนาทะเบียนบ้าน
๓.สำเนาบัตรสมาชิกสมาคม
๔.หนังสือรับรองจากสมาชิกซึ่งเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ ว่าผู้ยื่นขอรับสวัสดิการเป็นบุคคลที่ไม่มีรายได้ประจำ
คณะกรรมการต้องพิจารณาอนุมัติสวัสดิการและแจ้งให้กับผู้ยื่นขอรับสวัสดิการทราบภายใน ๔๕ วัน นับจากวันยื่นเอกสาร
ข้อ ๑๔ ในกรณีที่มีปัญหาในการใช้ระเบียบนี้ ให้นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด คำวินิจฉัยชี้ขาดของนายกสมาคมฯ ให้ถือเป็นที่สุด
ข้อ ๑๕ ให้นายกสมาคมฯ เป็นผู้รักษาการณ์ตามระเบียบนี้
ข้อ ๑๖ การแก้ไขเพิ่มเติมในระเบียบฉบับนี้ จะกระทำได้โดยอาศัยมติของคณะกรรมการบริหารสมาคม ไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๓ ของคณะกรรมการบริหารที่เข้าร่วมประชุม
ประกาศ ณ วันที่  ๑  กันยายน  ๒๕๕๒
นายวิรัช สุขเจริญ
(นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ)